วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การ์ตูนตุ๊ด กับ เจ้าชายดิสนีย์สยิวแตก 18+

การ์ตูนตุ๊ด กับ เจ้าชายดิสนีย์สยิวแตก 18+
BULGE OF DISNEY PRINCEs

ใครหลงใหลเรื่องเล่าเพ้อฝันในบรรยากาศเทพนิย้าย..เทพนิยาย
ใครปลาบปลื้มตัวละครจำพวกเจ้าชายโหยหิวรักแท้ & เจ้าหญิงแบ้วสุดพลัง
ใครอินจัด...เกลียดชังอินังแม่มดหน้าปลวกหรือนังร้ายหน้าโง่-โง่แล้วอวดฉลาด
ใครชื่นมื่นกับบทสรุปแบบ Happily Ever After – สุขสมตราบนานเท่านาน
ถ้าใคร ,ใคร ,ใคร และ ใคร....เป็นมีอาการอย่าง ใคร ,ใคร , ใคร และใคร เหมือนข้างบน
ก้อคงจะ IN LOVE การ์ตูนดีสนีย์ชนิดเข้าเส้นเลือดฝอยฝังแกนกลางสมองแน่ๆ
“จีจี้” ก้อเป็นคนหนึ่งที่ยอมให้เม็ดเลือดแดงข้นคลั่กไปด้วยโลกของดิสนีย์เค่อะ

จำได้ว่าตอนเด็กวัยกระเปี๊ยก
การ์ตูนเรื่องแรกที่เบิ่งตาดูแล้วใฝ่ฝันว่าสักวันฉันจะเป็นเจ้าหญิง(ไม่ขายกบนะเค่อะ)
นั่นคือเรื่อง “ สโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7 ” ผู้หญิงอะไรวันๆช่างลั้ลลากับชีวิตเหลือเกิน
เดี๋ยวก้อโก่งคอร้องเพลงด้วยโทนเสียงแหลมแหวกอากาศมั๊กๆ
ร้องเสร็จได้สักประเดี๋ยว...ก้อจิบปากคุยกับสารพัดสิงสาราสัตว์ด้วยจริตแบ๊วๆ
คุยไปคุยมา SHE ก้อครวญครางเพลงต่อไป-เหมือนโลกนี้มีแค่นี้จริงๆ
มิหนำซ้ำเสื้อผ้าแขนบอลลูน& ทรงผมบ๊อบเก๋ไก๋จน “ จีจี้” ต้องแอบแม่มาแต่งสโนไวท์
ยังไม่นับรวมเรื่องดิสนีย์ฮิตขึ้นหิ้งอย่างเจ้าหญิงนินทรา ซินเดอเรลล่า-เสร็จ “ จีจี้ ” ทุกราย
หมายถึง แต่งหญิงเหมือนอินางเหล่านี้ครบทุก Character ตั้งแต่ขนง่ามขายังไม่ขึ้นดี!!!



แต่วันนี้โลกเปลี่ยนไปแยะ
เด็กสมัยนี้สวยเริ่ดเชิดใส่การ์ตูนแบบดิสนีย์
“ จีจี้” เคยเปิดสารพัดเจ้าชาย & เจ้าหญิงสไตส์ดีสนีย์ให้หลานสาวดู
ปรากฏเด็กยุค BLACKBERRY แผลงฤทธิ์&ตอกกลับหน้าหงายเป็นเรื่องๆ เช่น
ทำไมเจ้าชายไม่เหม็นปากเจ้าหญิงนิทราเพราะ SHE เล่นนอนหลับนานถึง400ปี
ทำไมรองเท้าแก้วของนางซินไม่แตก? เห็นสวมแล้วยังเต้นเริงร่าซะรอบวัง
ทำไมเจ้าชายถึงกล้าจูบศพสโนไวท์ทั้งทีตายไปแล้ว , เจ้าชายโรคจิตหรือเปล่าเค่อะป้าจีจี้???
และอีกหลายทำไมๆๆๆๆ ประดังประเดกระแทกต่อมอึ้งเข้าอย่างแรง
แต่เด็ดสุดแซ่บถึงทรวงต้องหลานชายที่รักของ “ จีจี้ ” เค่อะ
ไม่ดูซินเดอเรลล่า ,โพคาฮอนทัส ...ด้วยสาเหตุเพราะเป็น “นิทานตุ๊ด”-แรงส์!!!
ไม่สนุก ไม่มันส์ ไม่รบ ไม่มีอาวุธ ไม่เก่ง ไม่เทพ ไม่เหมือน BEN 10!!!



5 เหตุผลที่หลานชาย “ จีจี้” กล่าวหาการ์ตูนดีสนีย์เท่ากับนิทานตุ๊ด

1. ตัวละครหลักในยุคจดจำเกือบทั้งหมดเป็นเจ้าหญิงเค่อะ ตั้งแต่สโนไวท์มาถึงมู่หลาน


2. ส่วนตัวผู้ชายใน Disney ก้อดูเหมือนไร้สมรรถภาพไม่สมควรเป็น IDOL
ทั้งค่อม ทั้งกล้ามปู ทั้งเป็นหุ่นไม้ ทั้งต๊อง แล้วน่าเลียนแบบมั้ยหล่ะเนี๊ยะ
3. การ์ตูนดีสนีย์ช่วงแรก ๆ มักฟาดฟันด้วยแรงริษยาเค่อะ
ประหนึ่งเหมือนดูละครน้ำเน่าช่องมากสีแถวๆหมอชิต
ในขณะที่ BEN 10 อุปกรณ์อาวุธเพียบพร้อมสอยศัตรู
4. เกือบ 1 ใน 2 ของเรื่องล้วนโก่งคอหอยร้องเป็นเพลง
โดยเฉพาะจริตจก้านของเจ้าหญิงเริงระบำกลางหมู่สัตว์น้อยใหญ่
สำหรับเด็กผู้ชายมันน่าเบื่อมากๆๆและที่สำคัญฟังไม่รู้เรื่อง&ไม่เข้าใจ
5. ยิ่งตามห้างสรรพสินค้ามุมสินค้า Disney
สีชมพูนำเด่นให้รู้กันไปเลยว่าโซนนี้เฉพาะชะนีเด็กเท่านั้นนะเค่อะ
เพราะทั้งเสื้อผ้า ของเล่น ยันกล่องดินสอประดับประกายเพชร(น่าอับอายสำหรับ BOY )
หลานชาย “ จีจี้ ” มันเลยยี้การ์ตูนดีสนีย์ & ตีตราว่านี่คือ “ การ์ตูนตุ๊ด ” นับบัดนั้น!!
นี่แหล่ะเค่อะ...
การ์ตูนดีสนีย์ก้อเลยเหมือนหมดมนต์ขลังสำหรับเด็กยุคปรอทแตก
สำหรับเด็กผู้หญิงสโนไวท์น่าเบื่อเหลือขนาดนัก
สำหรับเด็กผู้ชายนี่คือการ์ตูนแต๋วแตกแหกกระเจิง
แต่สำหรับ “ จีจี้ ” นี่คือโรงเรียนเพาะบ่มจินตนาการที่ดี&สะอาดที่สุดในยุคนั้น



นับตั้งแต่ ปี 1937 ดีสนีส์เปิดซิง “ สโนไวทฺกับคนแคระทั้ง 7 ”
การ์ตูน 2 มิติเรื่องยาวเรื่องแรกใช้เวลาสร้างกว่า 3 ปี
สร้างปรากฏการณ์ปลุกจินตนาการวัยเด็กที่แอบซุกซ่อนให้ตื่นขึ้นอีกครั้ง
เป็นผลงานสร้างชื่อให้การ์ตูนดีสนีย์เบ่งบานหลังเคยสำเร็จมาแล้วจาก “ มิกกี้เม้าส์”
ต่อมาก้อทะยอยส่งสารพัดเจ้าชาย&เจ้าหญิงให้โลกได้รู้จักทั้งหุ่นไม้ “Pinocchio” (1940)
ช้างบิน “Dumbo” (1941) , นางซิน “Cinderella” (1950) , เจ้าหญิงนินทรา“Sleeping Beauty” (1959)
ซึ่งจัดได้ว่าระยะนี้เป็นช่วงโหมโรงโลกเทพนิยาย & เป็นจุดเริ่มต้นของคำว่า “ Disney Classic ”








แต่ยุคทองผ่องอำพันของการ์ตูนดิสนีย์แท้ๆแล้ว
ต้องยกให้ช่วง 1989 – 19999..…
เป็น 10 ปีทองที่ร้อนแรงทั้งแง่กระแสประทับใจ & รายได้ล้นทะลัก
ทั้งเงือกน้อยคอยรัก The Little Mermaid” , โฉมงามกับอสูร “Beauty and the Beast” ,
อะลาดินกับตะเกียงวิเศษ “Aladdin”, สิงโตเจ้าป่า “The Lion King”,
โพคาฮอนธัส “Pocahontas”, คนค่อมแห่งนอตเตอร์ดาม “The Hunchback of Notre Dame”,
เฮอร์คิวลิส “Hercules”, มู่หลาน “Mulan” และ ทาร์ซาน “Tarzan” เป็นต้น
โดดเด่นทั้งฝีมือวาดตัวการ์ตูน & ฉากหลังเรียกว่าสวยเนียนแป้งกันเลยทีเดียว
โดดเด้งทั้งเพลงประกอบแบบว่า MEGA HIT ถล่มทลายเรียงหน้าขึ้นชาร์ตอันดับ 1
ยังจำได้ดีทั้งเพลง Color Of The Wind , I Swear , A Whole new world , Refection
แต่ชอบสุดตัวก้อต้องเพลง “ Can you feel love tonight ” ร้องโดยเจ๊แม่ เอลตัน จอห์น
แม้แต่เมืองไทยยังมีป้าเบิร์ดกะป้าแอม-เสาวรักษ์ร้องเพลงแปลง Aladdin กันเลยทีเดียว
นี่แหล่ะเค่อะ.....
จนเป็นที่ขนานนามทั่วยุทธภพว่านี่คือยุคที่ 2 ของดีสนีย์ , ยุค Disney Renaissance

จากที่ “ จีจั้ ” สังเกตสังกาโครงเรื่องเทพนิยายแบบ VERY ดีสนีย์
ถ้าไม่ใช่เจ้าหญิงเจ้าชายเป็นตัวนำเรื่องก้อจะเป็นสิงสาราสัตว์
มีครบหมดทั้งป่าตั้งแต่หนูแบบมิกกี้ ช้าง สิงโต หมียันไดโนเสาร์
และที่สำคัญเกือบทุกเรื่องต้องโหยหวนเล่าเรื่องด้วยเสียงเพลง
ถามเป็นเพลง-ตอบเป็นเพลง , ขนาดขี้ก้อยังร้องเป็นจังหวะเพลง!!

ช่วงแรกในยุค Disney Classic โครงเรื่องล้วนแอ๊บใสบริสุทธิ์ผุดผ่อง
ลั้ลลาเริงร่ากับป่าเขาลำเนาไพร เช่น ช้างบิน dumbo , กวางน้อย bambi
ถ้าเป็นเจ้าหญิงต้องทำตัวเป็นทองไม่รู้ร้อน & กระโดดเหย่งๆร้องเพลงเพ้อกับนกน้อยต้อยตี้วิดไปวันๆ
และดูเหมือนหล่อนจะภูมิใจในกระโปรงสีเหลืองอ๋อยเหลือเกิน
เพราะทุกย่างก้าว – มือของ SHE ต้องจิกกระโปรงให้แผ่สยายแล้วสะบัดไปมา!!!




จากนั้นแฟร์รี่เทลแบบ Disney เริ่มมีอิทธิฤทธิ์มนต์ดำเข้าครอบงำ
มีความแพรวพราว & แวววาวในเวทมนต์นำพาให้เด็ก ๆ หลุดจากความจริงมากขึ้น
ตัวละครทั้งหมดปรากฏในสมัย ladys & Lords คือ เจ้าหญิงกระโปรงสุ่ม-เจ้าชายเป้ารัดไข่
เช่น ซินเดอเรลล่า , เจ้าหญิงนินทรา และ อลิซในแดนมหัศจรรย์








และเมื่อเข้าสู่ยุค Disney 2.0 หรือยุค Disney Renaissance
ยุคที่ทุกสิ่งอย่างเบ่งบานเฟื่องฟูสุดพลัง
โครงเรื่องของดีสนีส์ช่วงนี้ก้อโกอินเตอร์มากขึ้นเค่อะ
ก้าวข้ามข้อจำกัดที่เคยตีเส้นล้อมกรอบไว้มากมาย
เช่นแต่เดิม เจ้าหญิงต้องผิวขาวพันธุ์โอโม่เท่านั้น
แต่รุ่นนี้มีผิวสีเข้มถึงเข้มที่สุดถึง 2 นางทั้ง Aladdin และ Pocahontas
และเจ้าชายหรือผู้ชายในตำนานต้องหล่อเหลาเอาโล่ แต่เราก้อได้เห็นคนค่อมใน Notre Dame
หรือเจ้าชายเงาะถอดรูปเพราะถูกคำสาปฝังร่าง อย่าง ADAM ใน Beauty and the Beast
นอกจากนี้ DISNEY ยังนำวรรณกรรมต่างบ้านต่างเมืองมายำเป็นการ์ตูนดิสนีย์
อาจเป็นกลยุทธ์ขยับขยายสวนสนุกดิสนีย์ในต่างแดนก้อเป็นไปได้
เราจึงได้เห็นทั้งอีหมวย Mulan ออกอาละวาด และ หนุ่มอาหรับALADIN ออกลีลา
แตกต่างจากรสชาติการ์ตูนดิสนีย์แบบ SAME ๆ ที่เราเคยคุ้นหน้าคุ้นตา
แต่การ์ตูนดีสนีย์ก้อยังเป็นดิสนีย์วันยันค่ำแหล่ะเค่อะ
ด้วยภาษาภาพ-เส้นสายลายการ์ตูน
ด้วยภาษาเสียง-เส้นทำนองร้องบรรเลง
ข้อคิดคติธรรมบรรจุอย่างดี และบทสรุปแบบ Happily Ever After –สุขสมตราบนานเท่านาน








จนกระทั่งการมาของการ์ตูนปล่อยพลังอย่าง โปเกะม่อน , เบน 10
หรือเจ้าชายยักษ์เขียวเน่านอก-นุ่มในอย่าง “ SHREK”
เขย่าอมตะเทพนิยายอย่างดิสนีย์ให้กลายเป็นตัวตลกในความรู้สึกของเด็กผู้หญิง
และผลักไสไล่ส่งตัวเจ้าหญิงเจ้าชายให้เป็นตัวแทนนิ่มละอ่อนสำหรับเด็กผู้ชาย

แต่ดิสนีย์ไม่รอช้าเค่อะ.....
พยายามโละห้องเครื่อง&ปรับโครงสร้างการ์ตูนใหม่สุดฤทธิ์
เลิกระบบวาดการ์ตูนด้วยมือโดยสิ้นเชิงเพราะมันเชย & เปลืองงบ-เปลืองเวลา!!
หันมาใช้คอมพิวเตอร์สร้างสรรค์แทนนับตั้งแต่เรื่อง Chicken RUN –แอบเศร้า ณ.จุดนี้!!
และโครงเรื่องในระยะนี้ก้อแปลกประหลาดเกินกว่าจะเป็นดิสนีย์
เรียกว่าเอาอกเอาใจเด็กผู้ชายเป็นพิเศษมีทั้งผจญภัยแบบแมนๆ อย่าง Treasure Planet
ตามหาดินแดนลึกลับซ่อนเงื่อนอย่าง Atlantis: The Lost Empire
แม้แต่เอเลี่ยนบุกโลกแบบ Lilo & Stitchs หรือครอบครัวไฮเทค เช่น Meet the Robinsons ก้อมีให้เห็น
ช็อกเค่อะ!!!กับแนวทางของดิสนีย์เยี่ยงนี้
ยิ่งทำให้ “ จีจี้” หวลหาความ Classy แบบเก่าๆของดีสนีย์มากขึ้นกว่าเดิม
คือไม่ใช่สไตส์ใหม่ไม่สนุกนะเค่อะ.....
แต่นั้นแหล่ะเค่อะ “รองเท้าแก้ว , เวทมนต์และเจ้าชายของฉ้านหายไป”???








“ จีจี้” พยายามข่มสมองให้เข้าใจว่าโลกมันเปลี่ยนไป
อะไร ๆ ก้อต้องเปลี่ยนตามเพื่อความอยู่รอด
ถ้าเจ้าหญิงดีสนีย์อุบัติขึ้นในยุคนี้ก้อคงไม่ต่างอะไรกับหนังเรื่อง enchanted
คือ เด๋อด๋าเซ่อซ่า & น่ารำคาญยิ่งมาแบ๊วมากๆเดี๋ยวจะโดนเพื่อนบ้านเหวี่ยงเข้าให้
เพราะฉะนั้นเจ้าหญิงดีสนีย์ต้องบูรณะตัวขนาดใหญ่เพื่อให้ทันโลก 2553
ในขณะที่เจ้าชายจะมาโง่งมไม่ทันแด๊กเหมือนในนิยายต้องไม่มีเด็ดขาด
และที่สำคัญจำไว้นะเค่อะ!!!...ผู้ชายยุคนี้ต้องกล้าโชว์ถึง “เกิดเจิดจ้า”
เพราะที่ผ่านมาเจ้าชายดีสนีย์โดนเจ้าหญิงข่มรัศมีตลอด-ตลอดเกือบดับคาเฟรม
เป็นชายไม่สมชายกว่าจะปรากฏตัวเจ้าหญิงก้อเกือดช่วยตัวเองได้ทุกคราว
ทั้งยังเสียดายเสน่หาเต่งตึงของอณูกล้ามเนื้อถูกปกปิดมิดชิดแบบเสียดายของ










และไม่ให้เสียเวลา David Kawena นักวาดการ์ตูนหัวคิดล้ำ TREND
จับผู้ชายของตระกูลดีสนีย์ทุกนายทั้ง เจ้าชาย ตัวโกงและเพื่อนร่วมทาง
มาเปิดซิงกล้ามเนื้อ & โชว์พวงมะตูมสุดอูมมามิให้เก้ง-กวาง-บ่าง-ชะนีครางซี๊ด
นี่แหล่ะเค่อะ!!อีกเสน่ห์ของดีสนีย์ที่ถูกซ่อนเร้นในหีบลึก
ใต้ก้นสมุทรแห่งจินตนากามที่ระดับความลึก 18 + (ระดับอายุนะเค่อะ.หุหุหุ)






และนี่คือโฉมหน้าผู้ชายดีสนีย์พร้อมสยิวแตกแบบเรียงหน้ากระดาน
“ จีจี้ ”แอบพ่วงตัวเลขรายได้ไว้พิจารณา
ว่าหนุ่มหน่อไหนเป้าร้อนทะลวงใจที่สุด


Peter Pan @ Peter Pan
5 กุมภาพันธ์ 2496
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 4






Captain Hook @ Peter Pan
5 กุมภาพันธ์ 2496
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 4






Prine Philip @ Sleeping Beauty
29 มกราคม 20502
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 16






ERIC @ The Little Mermaid
17 พฤจิกายน 2532
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 28
111 ล้านเหรียญสหรัฐ







PRINCE ADAM @ Beauty and the Beast
22 พฤจิกายน 2534
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 30
171 ล้านเหรียญสหรัฐ








GASTON @ Beauty and the Beast
22 พฤจิกายน 2534
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 30
171 ล้านเหรียญสหรัฐ






ALADDIN @ ALADDIN
25 พฤศจิกายน 2535
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 31
217 ล้านเหรียญสหรัฐ






john smith @ Pocahontas
23 มิถุนายน 2538
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 33
141 ล้านเหรียญสหรัฐ








Thomas @ Pocahontas
23 มิถุนายน 2538
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 33
141 ล้านเหรียญสหรัฐ







Kocoum @ Pocahontas
23 มิถุนายน 2538
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 33
141 ล้านเหรียญสหรัฐ







Phoebus @ The Hunchback of Notre Dame
21 มิถุนายน 2539
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 34
100 ล้านเหรียญสหรัฐ






Hercules @ Hercules
27 มิถุนายน 2540
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 35
99 ล้านเหรียญสหรัฐ







hades @ Hercules
27 มิถุนายน 2540
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 35
99 ล้านเหรียญสหรัฐ









Shang @ Mulan
19 มิถุนายน 2541
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 36
120 ล้านเหรียญสหรัฐ








Tarzan@ Tarzan
18 มิถุนายน 2542
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 37
171 ล้านเหรียญสหรัฐ







JOHN HENRY@ disney american legend 2000
16 มิถุนายน 2543







Emperor kuzco @ The Emperor's New Groove
15 ธันวาคม 2543
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 40
89 ล้านเหรียญสหรัฐ







Milo @ Atlantis: The Lost Empire
15 มิถุนายน 2544
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 41
84 ล้านเหรียญสหรัฐ








DR.SWEET @ Atlantis: The Lost Empire
15 มิถุนายน 2544
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 41
84 ล้านเหรียญสหรัฐ








david kavena @ Lilo & Stitch
21 มิถุนายน 2545
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 42
145 ล้านเหรียญสหรัฐ






jim Hawkins @ Treasure Planet
27 พฤศจิกายน 2545
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 43
38 ล้านเหรียญสหรัฐ







Sitka @ Brother Bear
1 พฤศจิกายน 2546
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 44
85 ล้านเหรียญสหรัฐ








prine naveen @ The Princess and the Frog
11 ธันวาคม 2552
ดิสนีย์คลาสสิคลำดับที่ 49
104 ล้านเหรียญสหรัฐ





นับว่าผลงานเจ้าชายนู้ดของนาย “เดวิด” ประสบความสำเร็จชนิดหูระบมเค่อะ
วัดจากกระแสชื่นชมก้อเพียบแปล้โดยเฉพาะบรรดาบุรุษหัวใจแต๋ว
เสียงด่าขมก้อกระหึ่มจากก๊วนผู้ปกครองและแฟนคลับรุ่นปู่โสมเฝ้าดีสนีย์
อาจกลัวลูกหลานมึนงงกับเจ้าชายแสนดีของ Disney ใน LOOK เยี่ยงนี้ก้อเป็นได้


และล่าสุด “ เดวิด ” ยอด ARTIST แหกกฎการ์ตูนดีสนีย์
เตรียมปลุกปั้นเจ้าชายพาเสียวโครงการ 2 ให้ลือลั่นกว่าเก่า
เปิดโหวตว่า “ใครควรค่าแก่การเปล่าเปลือย” มากที่สุด
และผลโหวตชวนอึ้ง-ทึ่ง-เสียวสุดๆเพราะเจ้าชายแต่ละหน่อช่างพึลึกพิลั่นยิ่งนัก
แต่ถ้าได้เป็นจริงแสดงว่า TREND ของแปลกกำลังมาแรง!!
ใครสนใจอยากเป็นส่วนร่วมเปลื้องผ้าเหล่าเจ้าชายสุด Classic
แวะไปได้ที่เว็บนี้เค่อะ www .davidkawena.deviantart.com
และนี่คือคะแนนโหวต 1 ใน 5 ของเจ้าชายอยากโชว์โครงการ 2
คะแนนอันดับ 5 : 12 เปอร์เซนต์
Kenai จาก Brother Bear
เหตุผลตุงใจ : คงอยากเห็น “อุ้งไข่หมี”มั้ง-ว่าจะโอฬารเพียงใด????





คะแนนอันดับ 4 : 15 %
The Prince จาก สโนไวท์กับคนแคระทั้ง 7
เหตุผลตุงใจ : จะตกขบวนสยิวได้อย่างไรเพราะนี้คือเจ้าชายองค์แรกแห่งอาณาจักรดีสนีย์






คะแนนอันดับ 3 : 18 %
Quasimodo จาก คนค่อมแห่ง Notre Dame
เหตุผลตุงใจ : นี่คงเป็นประสบการณ์ “เสียวล้างตา” ครั้งใหญ่







คะแนนอันดับ 2 : 18 %
Prince Charming จาก ซินเดอเรลล่า
เหตุผลตุงใจ : หล่อเด้งชวนอยากรู้อยากเห็นว่าจะเสียวเซ็กส์ขนาดไหน








และ คะแนนอันดับ 1
Roger จาก 101 ดัลเมเชี่ยน
เหตุผลตุงใต : คงอยากเห็น LOOK สยิวแตกจากนายหน้าจืดมั้ง-จะซ่อนอูมเยี่ยงไร ???







สำหรับ “ จีจี้” ดีสนีย์คือประสบการณ์วัยเยาว์ที่สะอาดที่สุด
ฉันรักดีสนีย์จังเย้ย!!!!!

ขอบคุงชาวโลกที่อ่านบทความ “ จีจี้” มาถึงบรรทัดสุดท้ายเค่อะ






INFO CREDIT..... davidkawena.deviantart.com / th.wikipedia.org
PIX CREDIT : DISNEY / DISNEY.COM
DISNEYPICTURE.NET / davidkawena.deviantart.com
XCLUSIVE BY MARH HUA GAY & GEEGEE
มารหัวเกย์ & จีจี้เองเค่อะ !!!!!
























































วันอังคารที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2553

5 ชุดประจำชาติไทยขึ้นหิ้งจักรวาล

5 ชุดประจำชาติไทยขึ้นหิ้งจักรวาล
5 Supreme Of thai Nation Costume!


“ จีจี้ ”ขอกรี๊ดดดดดดดดดดเป็นเสียงไอรยาสยามสัก 101 เดซิเบล
เมื่อรู้ว่า “นู๋ปุ๊กลุ๊ก” SHE ร้อนจริง-แน่จริง
ฟ้าประทานตำแหน่งสตรีมีเฮบนเวที Universe
ทำให้กองเชียร์เลือดไทยได้เฮเป็นระลอกๆ
เรียกได้ว่าเจิดจ้าออร่าเรืองแสงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่า “Jimena Navarrete ”
นางงามจักรวาลตัวจริงปี 2010 จากประเทศเม็กซิโก

เพราะ ชื่อของ “ นู๋ปุ๊กลุ๊ก ” ผูกติดเป็นจิตเดียวกับคำว่า “THAILAND”
เมื่อพิธีกรเรียกชื่อ “ Miss Thailand ” นั่นเท่ากับ “ Thailand” ทั้งแผ่นดินมีสุขไปด้วย
และไม่ใช่แค่ครั้งเดียวที่พิธีกรเรียกชื่อ SHE แต่เป็นถึงสองครั้งในระยะเวลาไม่ห่างกัน
กับสุดยอดรางวัลพิเศษทั้ง MISS PHOTOGENIC หรือ นางงามสวยด้วยรูป
และที่ 1 NATION COSTUME นั่นคือชุด “สยามไอยรา”ประกาศศักดาสตรีไทยแห่งค่ำคืน
แอบมีข่าวเม้าส์เบาๆว่า“ ปุ๊กลุ๊ก” เกือบทำแฮตทริกซิวอีก 1 รางวัล
นั่นคือนางงามมิตรภาพแพ้ให้ MISS AUSTRALIA ฉิวเฉียด 1 คะแนน!!
ไม่เช่นนั้นชื่อ THAILAND กระหึ่มเหนือจักรวาลถึง 3 รอบ ( และเป็นสถิตใหม่ของการประกวด)
แต่แค่นี้ “ จีจี้”และคนไทยทุกหัวระแหง
ก้อรัก “ ปุ๊กลุ๊ก” สุดหัวจิตหัวใจแล้วเค่อะ!!!!
เพราะอย่าลืมทุกตำแหน่งที่ SHE ได้มาจาก คะแนน VOTE ล้วน ๆ
รวมไปถึงรางวัลขวัญใจมหาชนคนทั่วโลกจากเว็บดัง MISSOSOLOGY
ถ้าไม่รักกันจริงไม่คง VOTE กระหน่ำจนหนังมือหงิกเงี่ยงหรอกเค่อะ




นอกจาก “ นู๋ปุ๊กลุ๊ก” เป็นที่ภูมิใจของสภากองเชียร์นางงามแล้ว
ยังมีอีก “สิ่งหนึ่ง” กำลังไต่ทะยานสู่ที่สุดของโลก(หรืออาจของจักรวาล)
นั่นคือชุดประจำชาติ ( The Nation Costume ) ของพี่ไทยเรานี่แหล่ะเค่อะ
เพราะจากสถิติ 58 ปี (ของการประกวดชุดประจำชาติ) ชุดไทยคว้าอันดับ 1 มาถึง 5 ครั้ง
ได้มาเป็นที่ 2 ของโลกรองจาก “ โคลัมเบีย ” เพียงแค่ 1 ชุดเท่านั้นเอง-รดต้นคอสุดฤทธ์!!

แม้ทุกๆปี.....
ชุดไทยประจำจะเป็นที่เม้าส์มอยหอมขมหลังจากเปิดตัว
เดี๋ยวก้อว่าไม่เริ่ด....
เดี๋ยวก้อว่าไม่ไทย....
เดี๋ยวก้อหาว่าเป็นชุดนางโชว์อาคาซาร์-เวอร์เกินไป
เรียกว่าเห็นอกเห็นใจ DESIGNER อุตส่าห์คิดดีแต่โดนขี้ปากทั้งขึ้นทั้งร่อง
ส่วนตัว “ จีจี้ ” เห็นว่าชุดประจำชาติสำหรับการประกวด
ไม่ได้หมายถึงต้องเป๊ะๆทุกเม็ดทุกตะเข็บผ้าตามตำราพัสตราภรณ์ไทย
แต่น่าจะหมายถึงการประยุกต์จุดเด่น-ต่อยอดจุดสงวน
คงกลิ่นอายความเป็นไทย-จะกลิ่นเบาแบบไทยเดิมหรือกลิ่นแรงแบบไทยแฟนซีก้อเอาเถิด
เพราะไม่ได้มีกฏว่าต้องขุดกระดูกบรรพบุรุษมาเข้าฝันบอกลายผ้าไทยซะเมื่อไร??

จากที่ “ จีจี้ ” ตาม-ติด-ตูดชุดประจำชาติไทย
ส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดก้อประยุกต์ด้วยกันทั้งนั้นแหล่ะเค่อะ
หรือที่เรียกว่าชุดไทยประยุกต์-แต่จะประยุกต์จากอะไรยังไงก้อเป็นอีกเรื่อง
เช่นดัดแปลงจากชุดไทยสมัยต่าง ๆ อยุธยา สุโขทัย ล้านนา
ประยุกต์จากวัฒนธรรมการละเล่น หรือชนเผ่าท้องถิ่น เช่น ชุดคนเขา ชุดมโนราห์
ปรับทรงให้สมสมัยจากชุดไทยพระราชนิยมทั้ง 8 ชุด
หรือแม้แต่ใช้เหล่านางในวรรณคดีสตรีในหน้ากระดาษเป็นแรงบันดาลใจ
เรียกได้ว่าสมบัติแห่งวัฒนธรรมใช้ยังไงก้อไม่มีจนปัญญา-ถ้าใช้เป็น

และจากสถิติจักรวาลชุดไทยคว้า 1 ถึง 5 ครั้ง
ครั้งแรกตั้งแต่ 1969 จนกระทั่งล่าสุดปี 2010-สดๆหมาดๆนี่เอง
5 ครั้งที่ชุดไทยสร้างความตื่นตะลึงให้คนทั้งโลก Amazing Thailand
5 ครั้งที่ชุดไทยสร้างความสุข & ลุ้นสนุกๆให้ชาวสยามตลอดเวล์
5 ครั้ง ตั้งแต่ชุด “นางละคร” สู่ “สยามไอรยรา” ที่วิจิตรพิสดารกลางดวงใจ




และนี่คือ 5 ชุดประจำชาติขึ้นหิ้งชั่วฟ้าดินสลาย!

1969 : ชุดนางละคร , เปิดตลาดงามแลตะลึง

หลังจากยังลั้ลล้ากับ “ อภัสรา หงษ์สกุล ” นางงามจักรวาลคนแรกของไทยแลนด์
อีก 4 ปีไม่นานเกินรอ, คนไทยก้อได้กรี๊ดแตกอีกครั้ง
เมื่อ “ แสงเดือน แม้นวงศ์” สาวไทยสอยรางวัลชุดประจำชาติมาเชยชมเป็นครั้งแรก
จากอินสไปร์ “ นางละครในวรรณกรรม ” สร้างความฉงนแลตะลึงให้ฝรั่งหัวสีทั้ง HALL
เพราะแค่เห็นแสงแวววับจับตาของเกล็ดเลื่อมก้อเคลิ้มแล้ว
ยิ่งเจอหัวนางละครเป็นชฏาสูงแหลมสง่างามประหนึ่งพีระมิดกลางหนังหัว
“ จีจี้ ” เชื่อว่าฝรั่งในยุคนั้น ( กว่า 40 ปี) ต้องไม่เคยพบเจอ EXOTIC COSTUME เยี่ยงนี้
กรรมการ AROUBD THE WORLD ร้อยทั้งร้อยเทใจให้ไปเลย “ ชุดดีเด่นแห่งจักรวาลปี 69 ”









1988 : ชุดไทยจักรี , ราชินีแห่งชุดไทย

อีก 26 วงการขาอ่อนต้องสาดสายตาจ้องมาที่ THAILAND อีกครั้ง
เพราะปีนี้ “ ปุ๋ย-ภรณ์ทิพย์ นาคหิรัญกนก ” คือสาวไทยคว้าเป้าหมายทะลุจักรวาล
เป็น MISS UNIVERSE คนที่ 2 แห่งสยามประเทศด้วย CONCEPT “ ปุ๋ยรักเด็ก ”
และเวทีเดียวกัน SHE ยังเริ่ดได้โล่คว้า “ ชุดประจำชาติ ” มาครอบครอง
เป็นชุดไทยจักรีประยุกต์จากชุดฉลองพระองค์ของสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
ออกแบบโดย “ อ.ลำยง บุญรัตพันธ์” สุดยอดดีไซเนอร์แห่งยุคจากห้องเสื้อระพี
ชุดนี้มีสีน้ำเงินอมม่วงเม็ดมะปราง-ยิ่ง “ ภรณ์ทิพย์ ” สวมใส่สวยงามจับหัวใจคนไทยทั้งโลก
ว่ากันว่ามูลค่าในขณะนั้นเฉียด 100,000 บาทแต่ถ้า ณ.บัดนาวคงตีเป็นเม็ดเงินไม่ได้แน่
เพราะนี่เป็นชุดประจำชาติที่หรูหรา & สง่างามที่สุดในประวัติศาสตร์ชุดประกวด






2005 : ชุดสตรีสูงศักดิ์อโยธยา , อร่ามตาแห่งสุวรรณภูมิ
นี่คือชุดประจำชาติประเภทไม่มากเกินแต่อร่ามตาเหลือรับประทาน
เป็นหนึ่งในชุดที่ประยุกต์อย่างลงตัวทุกเม็ด..อ้างอิงประวัติศาสตร์สุดฤทธิ์
มีโครงสร้างทางไอเดียจากสตรีผู้สูงศักดิ์แห่งอยุธยา
โชว์ศักยภาพสยามประเทศเป็นดินแดนแห่งสุวรรณภูมิ
เพราะฉะนั้นจึงเพียบด้วยสารพัดทองถักทอเป็นชุดสุดตรพการตา
แต่โดดเด่นสุดทะลุลูกกะตาต้องยกให้ “ ศิราภรณ์ทองถัก” สวมบนหัว
เป็นสัญลักษณ์ล้ำค่าของเจ้าหญิงปลายกรุงศรีอยุธยา
ทั้งหมดผ่านคมความคิดจากสมองของ “อ. ธีรพันธุ์ จันทร์เจริญ”
ซึ่งชุดนี้มีด้วยมูลค่าสูงลิบลิ่วเกือบ 1,000, 000 บาท-โอ้มายก๊อต!!!!
แม้จะเลอเลิศ PERFECT เยี่ยงนี้แต่ก้อมีเสียงเม้าส์ขัดแข้งขาว่า “ ไม่สวยพอ ”
แต่ทันใดที่ “ นู๋น็อต-ชนัญภรณ์ รสจันทร์” สวมใส่ใจกลางเวทีจักรวาล
เท่านั้นแหล่ะเค่อะ.....
กรรมการทั้งโลกเทใจให้ชุดไทยเยี่ยมยุทธสมเป็นชุดประจำชาติ
ปิดปากพวกขาเม้าส์เงียบกริ๊บชนิดลงหลุมใครหลุมมัน!








2008 : ชุดมวยโบราณ , ท้าประชันทุกหมัดเด็ด

เป็นอีก 1 ปีที่ถูกกระแสวิจารณ์กระหน่ำรูหู
ว่าทำไมชุดไทยถึงก๋ากั๋นเยี่ยงนี้-สไบไปไหน , ผ้าซิ่นทำไมไม่มี??
สารพัดน้ำลายจากบรรดากูรูหัวอนุรักษ์อุทยานหินล้านปี(หัวแข็งไม่ยอมตามโลก)
และเป็นครั้งแรกของชุดประจำชาติที่เป็นกางเกงขาสั้นมีผ้าพันเป็นกระจับ
ทั้งหมดนี้เป็นแรงบันดาลใจจากนักมวยโบราณสู่ผลงานชุด “ SPIRIT F FIGHTING ”
ต้องปรบมือให้เจ้าของไอเดียแหกมิตินั่นคือ “สถาปัตย์ มูลมา”หนุ่มน้อย ม.ขอนแก่น
ประยุกต์ทั้งตะเบงมาน กระจับและทุกองค์ทรงเครื่องของนักมวย
ผ่านโทนสีแดงดำ&ทองสะท้อนเลือดนักสู้ของสตรีไทย-จะหวานก้อเป็น,จะแรงก้อสู้!
แต่ที่ “ จีจี้” ปลาบปลื้มสุดพลังก้อคือผ้าคลุมโขมพัสตร์จากห้องเสื้อโนริโกะ
แบบว่ายิ่งใหญ่อลังการชวนติดตามว่าจะมีอะไร“ จะเอ๋ ”ออกมากระชากคะแนน
และยิ่งได้ “ นู๋แก้ม-กวินตรา โพธิจักร” ACT ลีลานักสู้สตรีไทย-เอาไปเลย 100 คะแนนเต็ม!








2010 : ชุดสยามไอยรา ,จินตนาการช้างไทย-ไชโยๆๆๆ

บรรเจิดเพริดแพร้วที่สุดบนเวที MISS UNIVERSE
นั่นคือ “ สยามไอยรา ” ที่นู๋“ ปุ๊กลุ๊ก”อวดวัฒนธรรมสยามประเทศให้โลกหลงใหล
จงลืมความคลาสสิคแบบเดิม..
จงลืม Pattern ชุดไทยราชนิยมทั้ง8..
เพราะชุดนี้ DESINER ใส่จินตนาการบนรากลึกของ"ช้างไทย"


ซึ่งชุด"สยามไอยรา"นี้มีรายละเอียดยิบย่อยชวนทึ่ง
จนต้องแตกหน่อถึงที่มาและที่ไปกันสักหน่อย
“ช้าง เป็นสัตว์ประจำชาติที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของไทย
โดยนำเครื่องทรงของช้างต้น มาเป็นแนวทางหลักในการออกแบบเครื่องประดับ
ไม่ว่าจะเป็น ผ้าปกกระพอง พู่หู กระพรวน พระนาศ หรือ ผ้าคลุมหลัง
ส่วนโครงของชุดประยุกต์มาจากเครื่องแต่งกายของสตรีสมัยรัชกาลที่ 5
ประกอบไปด้วย โจงกระเบนผ้าไหมไทยสีเทาเงิน สไบเฉียงสีแดง ถุงน่อง
ส่วนตัวเสื้อจะเป็นเสื้อแขนยาว ต้นแขนด้านขวาพองลักษณะคล้ายหูช้าง
และด้านซ้ายถือพัดโบก เปรียบเสมือนหูช้างอีกข้าง
ซึ่งความหมายโดยนัยของพัด คือการปัดเป่าทุกข์ภัยนำมาซึ่งความร่มเย็นเป็นสุขและสันติภาพ
ในขณะที่ทรงผมออกแบบมาในลักษณะของงวงช้าง ” ดีไซเนอร์แจง

และในที่สุด “ สยามไอยรา ” ก้อกระทืบเท้าอย่างช้างไทย
ให้โลกทั้งใบรู้ว่างามอย่างไทยยุค 3.9 G มันเป็นเยี่ยงไร
ต้องชมเชยทั้ง “พลิน อภิญญากุล” สุดยอดเลือดใหม่ดีไซเนอร์ไทย(หล่อด้วยเค่อะ)
ต้องชมเชยคณะกรรมการตัดสินที่ลงมติเลิกชุดนี้ไปชิงดำ
ต้องชมเชย “ นู๋ปุ๊กลุ๊ก” ที่สง่างามเมื่อสวมใส่จนชาวโลกหลงมนต์เสน่ห์
และประชาชนคนไทยทุกผู้ทุกนามร่วมกันกดๆๆโหวตๆๆ
จนประเทศไทยมีชุดประจำชาติขึ้นหิ้งกลายเป็นตำนานแห่งจักรวาลถึง 5 ชุด





และยังมีอีก 3 ชุด
แม้ไม่ได้ที่ 1 แต่ก้อสามารถคว้ารางวัลรองๆให้ Thailand ได้ภูมิใจ
1989 : ชุดมโนราห์
คว้ารองอันดับหนึ่งโดยมี “ ยลดา รองหานาม” เป็นตัวแทน Miss Thailand






1992 : ชุดไทยประยุกต์
ซิวรองอันดับหนึ่งโดยมี “ อรอนงค์ ปัญญาวงค์” เป็นสาวไทยเข้าชิงชัย






2009 : ชุดหญิงงามท้องถิ่นสุวรรณภูมิ
ได้รองอันดับสามโดยมี “ ไข่มุก – ชุติมา ดุรงค์เดช” สวมใส่เป็นศรีสง่า







แปลกแต่จริง...
ชาติตัวแม่เมืองแฟชั่นวีคทั้ง 5 หัวเมืองกลับดับอนาถ
ทั้งญี่ปุ่น , อังกฤษ และ อเมริกา ได้ชุดยอดเยี่ยมเพียง 1 ครั้ง
ในขณะที่มหาอำนาจแฟชั่นชั้นสูงอย่างฝรั่งเศส และ อิตาลี
ไม่เคยสัมผัสจับต้องรางวัลแฟชั่นประจำชาติเลยสักครั้งหนึ่ง
และน่าเสียดายแทนประเทศที่ประวัติศาสตร์ยาวนานหลายพันลี้
อย่างจีน กรีกและอียิปต์ก้อไม่เค้ย...ไม่เคยได้ชื่นชมรางวัลชุดแห่งศักดิ์ศรี
แต่ไทยทำและทำได้ถึง 5 ครั้ง-เริ่ดที่สุดไทยแลนด์,ฉันรักเธอว์จังเลย!!!!








ล่าสุด...
“สยามไอยรา” กำลังระบาดหนักในหมู่เก้ง-กวางทั่วราชอาณาจักร
ใครมีผ้า มีวิก มีพัดก้อสามารถเสกสรรชุดยอดเยี่ยมแห่งปี 2010 ได้แล้ว
จะออกงานเลี้ยงรุ่น งานโชว์ตัว งานปาร์ตี้แฟนซีรับรองได้ดีกันถ้วนหน้า
แต่เอ๊ะๆๆๆๆ.....
ทำไมนางคนนี้ถึงงามฉงนเยี่ยงนี้หรือนี่คืออีกภาคของ “ สยามไอยรา”
แต่เป็น “สยองไอยรา” สวยน่ากระชากหัว-เอาโล่ไปเลยเค่อะเพื่อนสาวของเรา!!!





INFO CREDIT : Korat@oknation.net
en.wikipedia.org / thaiall.com
PIX CREDIT : jo@thaimiaa.com / t-pageant.com
Nationmultimedia.com / Sean By 111
XCLUSIVE BY MARH HUA GAY & GEEGEE
เรียบเรียงเสียงประสาน โดย มารหัวเกย์ & จีจี้เองเค่อะ!!!!